สุดยอดแห่งสิ่งมหัศจรรย์พิศวงต้องยกให้กับ “สโตนเฮนจ์”

stonehandสโตนเฮนจ์ เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ใครก็ต่างรู้จักกันดีว่า สโตนเฮนจ์ เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก นักโบราณคดีเชื่อกันว่าก้อนหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาของกลุ่มคนโบราณ แต่สถานทีนั้นยังไม่รู้แน่ชัด สโตนเฮนจ์ มีอายุราว 3000 ปีที่แล้ว

กลุ่มนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มได้มีการสำรวจก้อนหินเหล่านี้กันอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาได้กล่าวไว้ว่าจำนวนก้อนหินมีทั้งหมด 112 แต่ละก้อนนักท่องเที่ยวให้ความเห็นว่ามีความลึกลับและน่ากลัวซ่อนอยู่เป็นอย่างมาก สโตนเฮนจ์ มีชื่อเสียงมากในประเทศอังกฤษในฐานะที่เป็นกลุ่มหินประหลาด สโตนเฮนจ์ นอกจากจะให้ความสนใจกับนักท่องเที่ยวแล้วยังให้ความสนใจกับนักวิทยาศาสตร์กันอีกด้วย

นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ต่างมีความสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมคนในสมัยก่อนถึงสามารถยกก้อนหินซึ่งหนักกว่า 30 ตัน ขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร ทั้งๆ ที่สมัยก่อนนั้นยังไม่มีเครื่องทุ่นแรงเหมือนกับปัจจุบันด้วยซ้ำ สโตนเฮนจ์ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1986 และสถานที่แห่งนี้จะขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนกันมาแล้ว จะต้องมีการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงและดนตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษได้ทำการวิจัยจึงทำให้เขาพบว่าแท่งหินเหล่านี้สามารถสะท้อนเสียงได้อย่างดีเป็นพิเศษ และยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มคาดเดากันว่าสร้างเพื่อการศึกษาด้านดาราศาสตร์ สังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ ของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สุริยุปราคา จันทรุปราคา เพราะแนวของกลุ่มก้อนหินเหล่านี้ล้วนแต่มีความสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ นับว่าเป็นชิ้นงานที่สำคัญที่ชวนพิศวงเป็นอย่างมาก และยังแสดงให้เห็นวิวัฒนาการความก้าวหน้าของชนเผ่าต่างๆ ในยุคนั้น บริเวณโดยรอบนั้นไม่มีภูเขาหรือสิ่งก่อสร้างด้วยหินอื่นๆ และคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักก้อนหินยักษ์อย่างสโตนเฮนจ์ ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวที่นี่ถ้าได้เห็นภาพและอ่านเรื่องราวของสโตนเฮนจ์แล้วก็คงจะอยากไปสัมผัสกันอย่างแน่นอน